วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

โดเมนเนมคืออะไร และมีความเป็นมาอย่างไร?

1.ความหมายของโดเมนเนม
โดเมนเนม ก็คือ "ชื่อ สำหรับไว้เรียกเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปซึ่งมักจะเห็นในรูปลักษณ์ ดังนี้ www.yahoo.com นั่นคือ เว็บไซต์มีที่ชื่อว่า "Yahoo" เป็นต้น แต่เวลาจดจำเว็บไซต์ที่เราต้องการค้นหา เรามักต้องจดไว้ทั้งหมด อาทิ http://www.***.com หรืออีกนัยหนึ่ง โดเมนเนม อาจเปรียบเสมือน บ้านเลขที่ ถ้าคุณจะบอกให้ใครๆ มาหาที่บ้าน คุณก็ต้องบอกบ้านเลขที่ของคุณให้เขาเหล่านั้นทราบ ที่บอกว่าเหมือนบ้านเลขที่ก็เพราะหน้าตาดั้งเดิมของโดเมนเนมจะเป็นตัวเลข อาทิ 202.182.0.1 ฯลฯ แต่ตัวเลขเหล่านั้นจำยากสำหรับคนทั่วไป (แต่ง่านสำหรับคอมพิวเตอร์) เราๆจึงเห็นหน้าตาของโดเมนเนมส่วนใหญ่เป็นตัวอักษร ซึ่งในด้านเทคนิคแล้วตัวอักษรเหล่านั้นจะถูกแปลงเป็นชุดตัวเลข และหลักในการตั้งชื่อโดเมนเนมนั้นจะใช้ "คำ" แทนชุดตัวเลข เช่น 202.182.0.1 เพื่อง่ายแก่การจดจำของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะแปลงค่าของคำนั้นออกเป็นตัวเลขที่คอมพิวเตอร์สามารถอ่านได้แทน ถ้าจำตัวเลขได้ ก็สามารถที่จะนำตัวเลขนั้นมาพิมพ์ค่าแทนการพิมพ์ชื่อโดเมนปกติได้ เช่น โดเมนที่ชื่อ www . siamweb . com แทนตัวเลขชุด 207.266.172.2 เป็นต้น

สำหรับประวัติความเป็นมาของโดเมนเนม
อินเทอร์เน็ต (Internet) มีจุดเริ่มต้นมาจากโครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการศึกษาและระบบเครือข่าย ที่รู้จักกันดีในนามของโครงการ "ARPANET" ซึ่งระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นมาคือ TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol) โดยใช้ระบบปฏิบัติการ UNIX ซึ่งช่วยให้การเชื่อมโยงสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก
และ Domain Name System [DNS] ชุดแรกที่ถูกนำออกมาให้ทุกคนได้ใช้งานมีอยู่ด้วยกัน 5 แบบ โดยเราสามารถแยกความแตกต่างของโดเมนเนมได้จากอักษรย่อที่ต่อจากชื่อ เช่น www . *** . com หรือ www . *** . net ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องบอกกันสักนิดว่า ยุคแรกๆ ของโดเมนเนมนั้นมีด้วยกันไม่กี่สกุล ต่อมาปัจจุบันหลังจากที่มีการยึดครองโดเมนหลักๆ ไปเป็นของ Internic.net อย่างเดียวแล้ว ก็เกิดการฟ้องร้องกันระหว่างรัฐกับบริษัท Network Solution จำกัด ว่าใครควรจะได้เป็นเจ้าของโดเมนเนม ซึ่งผลเพิ่งประกาศออกมากลางเดือนมีนาคม 2542 ว่า "จะให้บริษัทใดก็ได้สามารถบริหารชื่อเป็นของตนเองได้" ดังนั้นจึงทำให้เกิดโดเมนใหม่ๆ ขึ้นมาหลังจากนั้นอีกมากมาย เช่น .shop, .sex เป็นต้น และทางบริษัท Network Solution . com

2.ตัวอย่างส่วนขยายของโดเมนเนม
.com ย่อมาจาก commercial หมายถึง การค้า บริษัท องค์กร
.net ย่อมาจาก network หมายถึง เครือข่าย
.org ย่อมาจาก organization หมายถึง องค์กรไม่หวังผลกำไร
.biz ย่อมาจาก business หมายถึง องค์กร บริษัท ห้างหุ้นส่วน คล้ายกับ .com
.info ย่อมาจาก information หมายถึง ข้อมูลสารสนเทศ
.us ย่อมาจาก united states หมายถึง ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะต้องมีภูมิลำเนาอยู่ที่ประเทศนี้ด้วย
.co.th ย่อมาจาก commercial in Thailand หมายถึง บริษัทหรือองค์กรที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
.ac.th ย่อมาจาก academic in Thailand หมายถึง โรงเรียน มหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
.or.th ย่อมาจาก organization in Thailand หมายถึง องค์กรไม่หวังผลกำไรที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย
.in.th ย่อมาจาก individual in Thailand หมายถึง บุคคลทั่วไปที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย

3.วิธีจดโดเมนเนม "ด้วยตัวเอง" ต้องทำอย่างไร?

-เริ่มต้นจากการเลือกชื่อโดเมนเนมที่ต้องการ โดยคุณสามารถตรวจสอบว่า ชื่อที่คุณต้องการว่าถูกคนอื่นจับจองไปแล้วหรือไม่จากเว็บไซต์ของนายทะเบียนต่างๆ
หากค้นหาแล้วชื่อนั้นยังว่างอยู่ ก็เริ่มขั้นตอนการจับจองได้ทันที ขั้นตอนส่วนใหญ่หลังจากคุณคลิ้กเลือกที่จะซื้อโดเมนเนมนั้นๆ แล้ว คุณก็ต้องกรอกแบบฟอร์มราย
ละเอียดสำหรับการลงทะเบียน ตั้งแต่ชื่อบริษัท (หรือชื่อของคุณเอง) ที่อยู่ อีเมล์แอดเดรส รวมไปถึงหมายเลขบัตรเครดิต ฯลฯ
ในส่วนนี้คุณอาจเห็นฟอร์มรายละเอียดสำหรับบุคคลหลักๆ 4 ฝ่ายด้วยกัน คือ Registrant, Administrative, Billing และ Technical
โดยส่วนใหญ่ 3 อันแรกจะเป็นชื่อและที่อยู่ของคุณซึ่งเป็นผู้จดทะเบียน ส่วน Technical Contact นั้น มักจะเป็นที่อยู่ของนายทะเบียน เพราะเขาจะเป็น ผู้ที่ดูแลด้านเทคนิคต่างๆ ให้กับคุณในกรณีที่เนมเซิร์ฟเวอร์เกิดมีปัญหา
ส่วนค่าของเนมเซิร์ฟเวอร์นั้น ค่าเริ่มแรกมักจะเป็นเนมเซิร์ฟเวอร์ของนายทะเบียน (ซึ่งส่วนใหญ่ให้ใช้ได้ฟรี) แต่หากคุณมีเว็บไซต์อยู่แล้ว หรือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเนมเซิร์ฟเวอร์เป็นของตนเอง ก็สามารถระบุแอดเดรสของเนมเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการลงไปได้ หากยังไม่แน่ใจก็ให้ใช้บริการฟรีของนายทะเบียนไปก่อน แล้วค่อยกลับมาแก้ไขทีหลังตอนลงทะเบียนเสร็จแล้วก็ได้ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ที่คุณสามารถตั้งค่าได้เลยก็เช่น บริการฟอร์เวิร์ดโดเมนไปยังเว็บไซต์ที่คุณมีอยู่แล้วหรือบริการตั้งชื่ออีเมล์แอดเดรสสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

4.หลักที่ใช้ในการตั้งชื่อ โดเมนเนม

- ความยาวของชื่อ ตั้งได้ไม่เกิน 67 ตัวอักษร
- สามารถใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมกับตัวเลข หรือเครื่องหมายขีด (-) ได้้
- ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ใช้ตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็ได้
- ห้ามใช้เครื่องหมายขีด (-) นำหน้าชื่อ domain name
- ห้ามเว้นวรรคในชื่อ domain name

5.ข้อสอบเกี่ยวกับเรื่อง "โดเมนเนม

1.คำถาม : โดเมน เนมคืออะไร?
คำตอบ : โดเมนเนม ทำหน้าที่คล้ายกับเป็นบ้านเลขที่ของเรา ซึ่งเราเป็นเจ้าของ เช่นเดียวกับที่อยู่ที่ใช้ส่งอีเมล์

2.หลักการจดโดเมนเนมมีอะไรบ้าง
ตอบ.....-ประกอบด้วยตัวอักษรและเครื่องหมาย -(ขีดกลาง)ได้ แต่ห้ามมีช่องว่าง
-ห้ามใช้อักขระพิเศษ ไม่ควรตั้งชื่อที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับเครื่องหมายการค้าที่มีการจดทะเบียนไว้แล้ว เพราะมีโอกาส
ถูกฟ้องร้องเรียกชื่อโดเมนคืนได้จากเจ้าของเครื่องหมายการค้า/บริการที่จดทะเบียนไว้ได้
-ชื่อโดเมนควรสอดคล้องกับเนื้อหา ผลิตภัณฑ์ บริการ ภายในเว็บไซต์
-การจดโดเมนเนม ต้องตรวจสอบตัวสะกดให้ถูกต้อง เพราะถ้าใส่ตัวสะกดผิด แต่ ดำเนินการขอจดไปแล้ว และจ่ายเงิน
ไปแล้ว ไม่มีผู้รับจดทะเบียนรายใด คืน เงินให้ เพราะเขาใช้ในการดำเนินการไปแล้ว เช่นจะจด chuanchom.com
(ชวนชม.คอม) แต่พลาดไปพิมพ์เป็น chuadchom.com (ชวดชม.คอม) ก็จะแก้ไขไม่ได้แล้ว

3.การแลกเปลี่ยนการศึกษาและระบบเครือข่ายเป็นโครงการอะไร?
ตอบ ...โครงการ arpanet

4.สิ่งที่ต้องมีต่อการจด Domain Name มีอะไรบ้าง?
ตอบ...ก็คือ-เงิน (Money)
-วิธีการ (Method)
-เวลา (Time)
-รีบศึกษา (Hurry)
-ความตั้งใจ (Attention)
-จินตนาการ (Imagination)

5. ประเภทของ Domain Name แบ่งได้เป็นกี่ประเภท?
ตอบ... Domain Name แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ค่า..

ไม่มีความคิดเห็น: